‘Scott Joplin’ เขาเกิดในปี ค.ศ.1867 และเสียชีวิตในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1917 โดยเขาเป็นทั้งนักดนตรีและนักประพันธ์เพลงแร็กไทม์ที่มีชื่อเสียงในระดับสูง โดยพลังบทเพลงของเขาได้เป็นบรรทัดฐานที่สร้างมาตรฐานไว้ให้แก่ผู้คนรุ่นหลัง
ประวัติของ ‘Scott Joplin’ อันน่าสนใจ
‘Scott Joplin’ ได้รับการขนามนามว่าราชาแห่งแร็กไทม์ ในช่วงเวลาสั้นๆ ในอาชีพของเขา เขาได้เขียนต้นฉบับนาม Ragtime 44 ชิ้น โดยหนึ่งในนั้น คือ บัลเล่ต์ Ragtime และ Opera โดยหนึ่งในผลงานชิ้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเขาคือ ‘Maple Leaf Rag’ ซึ่งกลายเป็นเพลงฮิตอันดับแรก และมีอิทธิพลมากสุดของ Ragtime จนกระทั่งได้รับการยอมรับว่าเป็น Rag Archetypal Rag
หลังจากปี ค.ศ. 1871 ครอบครัว ‘Joplin’ ได้ย้ายไปอยู่ ณ เมือง Texarkana รัฐ Texas โดยแม่ของ Joplin ได้ทำความสะอาดบ้านเพื่อ Scott จะได้มีพื้นที่หัดเล่นดนตรี ในปี ค.ศ. 1882 แม่ของเขาได้ซื้อเปียโนให้ หลังจากเขาได้แสดงให้เห็นถึงทักษะอันโดดเด่นตั้งแต่อายุยังเยาว์วัย ‘Scott Joplin’ ก็ได้เรียนเปียโนแบบไม่ต้องจ่ายเงินกับอาจารย์ชาวเยอรมัน ผู้ให้ความรู้เรื่องรูปแบบของดนตรีคลาสสิกแก่ Joplin อย่างอัดแน่น โดยสิ่งนี้ได้สร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อเขาในภายภาคหน้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้เป็นไฟให้เขาในการสร้างรูปแบบคลาสสิกให้แก่ดนตรีแร็กไทม์ ต่อมาเขาได้เพิ่มเติมความรู้ทางด้านดนตรี ด้วยการเข้าเรียน ณ George Smith College เมือง Sedalia ในวิชาประพันธ์เพลง
เส้นทางในการสร้างผลงานของเขา
ความโดดเด่นของเขา คือ การผสมผสานของเครื่องดนตรีคลาสสิกซึ่งมีบรรยากาศทางดนตรีอันมีอยู่รอบๆ Texarkana รวมถึงเพลงทำงานเพลงสวดพระกิตติคุณวิญญาณและเพลงเต้นรำ นอกจากนี้ความสามารถตามธรรมชาติของ Joplin ได้รับการกล่าวอ้างว่า มีส่วนสำคัญต่อการประดิษฐ์เพลงรูปแบบใหม่ ในรูปแบบที่มีท่วงทำนองของยุโรปมีกลิ่นอายอันโดดเด่น จนกระทั่งเริ่มโด่งดังในยุค 1890 สำหรับผลงานครั้งแรก จนกระทั่งกลายมาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสุดของ Joplin ได้แก่ ‘Maple Leaf Rag’ ซึ่งได้รับการอธิบายว่าเป็นแบบฉบับของเพลงคลาสสิก โดยได้รับอิทธิพลจากนักแต่งเพลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 12 ปีหลังจากการเผยแพร่ออกมาเป็นครั้งแรก ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าความสำเร็จของ Joplin นั้น ได้รับอิทธิพลมาจากอาจารย์สอนดนตรีชาวเยอรมัน นาม Julius Weiss ที่ได้รับการฝึกฝนมาในแนวทางคลาสสิก
โดย Joplin ตั้งใจจะแต่งเพลงของเขาให้เหมือนกับที่เขาเขียนไว้ ตามแบบฉบับของตัวเอง ในฐานะดนตรี ‘Classic’ ออกมาทางในดนตรีที่มีรูปแบบขนาดเล็กเพื่อยกระดับเสียงแร็กไทม์ให้อยู่เหนือต้นกำเนิด ซึ่งเขาได้ผลิตงานที่นักประวัติศาสตร์ Opera ได้ออกมาอธิบายว่า ‘…ดนตรีของ Joplin มีความไพเราะว่าผลงานอื่นๆ ที่ออกมาในยุคของเขา’…