stlouis_arch_image

สถาปัตยกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความคิดที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ด้วยกันทั้งสิ้น สำหรับคนที่มีแรงบันดาลใจในการจะทำอะไรที่น่าสนใจมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เรามักจะเห็นสิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกแปลกตาเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้อยู่ตลอด ด้วยเหตุนี้เองบ่อยครั้งที่สถาปัตยกรรมบางแห่งได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างในสหรัฐฯ เองก็มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจนกลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง สิ่งก่อสร้างที่เป็นสถาปัตยกรรมที่ว่านี้ก็คือ ประตูโค้งแห่งเซนต์หลุยส์มิสซูรี

arch_image_gateway

จริงๆ แล้วประตูโค้งแห่งเซนต์หลุยส์มิสซูรี ที่ว่านี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Gateway Arch ถือว่าเป็นประตูสู่ตะวันตกของสหรัฐฯ อย่างแท้จริง ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1965 ประตูโค้งที่ว่านี้มีความสูงถึง 630 ฟุต ลักษณะของประตูโค้งที่แท้จริงเหมือนกับวงโค้งแบบพาลาโบล่า วัสดุที่ใช้ทำเป็นเหล็กแบบไร้สนิม ถูกตั้งอยู่บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เจฟเฟอร์สัน ของสหรัฐฯ บริเวณริมแม่น้ำเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ประตูโค้งที่ว่านี้ถูกออกแบบจากความคิดของสถาปนิกชาวอเมริกันทว่าไปเกิดในฟินแลนด์อย่าง Eero Saarinen ประตูโค้งแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงประธานาธิบดีโธมัส เจฟเฟอร์สัน ที่เป็นคนตัดสินใจใช้เงินซื้อรัฐหลุยส์เซียน่าคืนมาจากประเทศฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1803 โดยในช่วงเวลาดังกล่าวนี่คือสัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้ว่าสหรัฐฯ สามารถจะเข้าไปบุกเบิกพื้นที่บริเวณดังกล่าวเพื่อสร้างโลกใหม่ให้กับฝั่งตะวันตกได้อย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนี้มีเรื่องที่น่าเศร้าเกิดขึ้นนั่นก็คือ แม้ว่า Eero Saarinen จะเป็นผู้ชนะการประกวดออกแบบประตูโค้งแห่งนี้ในช่วงปี ค.ศ. 1947-48 เพื่อให้เป็นเกียรติแก่ผู้ที่ทำการบุกเบิกในสถานที่ดังกล่าว ทว่าในช่วงเวลาต่อมาเขากลับพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งในสมองก่อนจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับในปี ค.ศ. 1961 ไม่มีโอกาสได้เห็นผลงานที่เขาตั้งใจออกแบบมาอย่างสุดฝีมือแบบของจริงได้หรือแม้แต่การเริ่มต้นตั้งเสาสักต้นก็ยังไม่ทันได้ทำเลย เพราะว่าประตูโค้งแห่งนี้เริ่มต้นสร้างครั้งแรกในปี ค.ศ. 1963

Riverfront-and-Arch

เป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์อย่างหนึ่งคือประตูแห่งนี้ใช้งบประมาณในการสร้างไม่ถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีรากฐานลึกลงไปในดินถึง 60 ฟุต การออกแบบจนถึงการใช้วัสดุมีความแข็งแรงทนทานต่อลมพายุ และ แผ่นดินไหว ภายในของโพรงประตูโค้งมีระบบรถรางที่สามารถพานักท่องเที่ยวขึ้นไปจนถึงจุดสูงที่สุด หากวันไหนมีอากาศที่ดีจะสามารถมองข้ามผ่านแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ไปไกลกว่า 30 ไมล์ เลยทีเดียว ในทุกๆ ปีจะมีคนกว่า 4 ล้านคนมาท่องเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้