แม่น้ำ Mississippi River ยาวสุดในอเมริกาเหนือ

แม่น้ำ Mississippi River ยาวสุดในอเมริกาเหนือ

ประเทศอเมริกา หากจะพูดถึงแม่น้ำสำคัญของประเทศเค้า ต้องบอกเลยว่าแม่น้ำ Mississippi River เป็นแม่น้ำสายหลักที่สำคัญอย่างมาก เพราะว่าแม่น้ำนี้มีขนาดกว้าง ใหญ่ ยาว หล่อเลี้ยงชาวอเมริกาหลายรัฐหลายเมืองมานานมาก ปัจจุบันนอกจากเรื่องของการเกษตรแม่น้ำนี้ยังคงเป็นแม่น้ำสำหรับการท่องเที่ยวด้วยมารีวิวกันหน่อยดีกว่า ข้อมูลเบื้องต้น มาทำความรู้จักแม่น้ำนี้กันบ้าง ตามข้อมูลบอกว่า แม่น้ำสายนี้ยาวถึง 3,334 กิโลเมตร ต้นทางน้ำอยู่ที่ทะเลสาบอิตาสคา ตั้งอยู่ที่อุทยานรัฐอิตาสคา รัฐมินเนโซตา สาเหตุที่แม่น้ำสายนี้สำคัญคงเป็นเพราะว่าไหลผ่านถึง 10 รัฐด้วยกันไม่ว่าจะเป็น รัฐมินเนนโซตา ,รัฐวิสคอนซิน ,รัฐไอโอวา, รัฐอิลลินอย, รัฐมิสซูรี, รัฐเคนตั๊กกี, รัฐเทนเนสซี, รัฐอาร์คันซอ , รัฐมิสสซิสซิปปี , รัฐหลุยเซียนา นอกจากตัวแม่น้ำแล้วยังแยกเป็นแม่น้ำสายย่อยลงไปอีกหลายสาย ไม่แปลกที่แม่น้ำนี้ถือว่าเป็นแม่น้ำหัวใจสำคัญของอเมริกาเลยก็ว่าได้ รีวิวแม่น้ำ อย่างที่เราบอกไปว่า แม่น้ำแห่งนี้ถือว่าเป็นหัวใจหลักของแม่น้ำอีกหลายสายที่แยกย่อยออกไป ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งของแม่น้ำนี้ที่ไหลผ่านก็คือ แม่น้ำจะเป็นแหล่งต้นกำเนิดชีวิตและธุรกิจอีกมากมาย บางเมืองที่ผ่านไปแม่น้ำแห่งนี้จะเป็นต้นทุนในการทำการเกษตร อย่างเช่นที่รัฐลุยเซียนา จะนำแม่น้ำนี้เป็นทุนในการเพาะปลูก พืชสำคัญก็คือ ข้าวโพด ถั่วเหลือง ยาสูบ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของเมืองนี้ด้วย แต่บางช่วงของแม่น้ำก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการสร้างอาคารสูง โรงแรม เพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็มีด้วย ความสำคัญอีกอย่างของแม่น้ำสายนี้ ก็คือระบบการขนส่งที่จะใช้ระบบการขนส่งทางเรือเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แม่น้ำสายนี้ผ่านหลายรัฐ หลายเมือง ทำให้มีเมืองท่าเกิดขึ้น ระบบการขนส่งทางนี้ก็เจริญขึ้นด้วย หรืออีกหนึ่งอย่างจะเป็นการเที่ยวแบบล่องเรือสำราญ ก็เกิดขึ้นจากแม่น้ำสายนี้ อาจจะเป็นการล่องเรือระยะใกล้ จนถึงล่องเรือไกลดื่มด่ำกับธรรมชาติก็ว่ากันไปตามลักษณะของกลุ่มทัวร์ รีวิวท่องเที่ยว หากจะพูดถึงการท่องเที่ยวแม่น้ำ mississippi river เราแนะนำว่าต้องไปโฟกัสที่รัฐมิสซิสซิปปี้ก่อนเลย เพราะว่ารัฐนี้เค้าจะมีแม่น้ำสายนี้ไหลผ่านตามแนวตะเข็บของรัฐด้วย แต่รัฐนี้เค้าทำการท่องเที่ยวโดยใช้แม่น้ำสายนี้เป็นสื่อกลางโดยจุดท่องเที่ยวน่าสนใจก็จะมีหนึ่งการล่องเรือกลไฟชมแม่น้ำ ซึ่งจะเป็นการล่องเรือแบบล่องเรือดูวิวเฉยๆ กับล่องเรือพร้อมกับรับประทานอาหาร 1 มื้อด้วย  เราได้ชมแม่น้ำพร้อมกับฟังดนตรีแจ๊สสดๆ ไปด้วย ในวิวเมืองตอนกลางคืนที่สองฝั่งแม่น้ำเต็มไปด้วยอาคารที่ตกแต่งไฟอย่างเรียบร้อยสวยงาม สะพานข้ามแม่น้ำที่ตอนกลางคืนส่วนกว่าตอนกลางเยอะเลยแทงบอล เป็นอีกหนึ่งเส้นทางล่องเรือที่จะทำให้เราประทับใจไปทั้งคืน เกือบลืมบอกไปว่า เรือกลไฟแบบนี้เหลือไม่กี่ลำในโลกแล้ว เหมือนกับได้ซึมซับประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน The Gateway Arch แลนด์มาร์คสำคัญของประเทศสหรัฐอเมริกา อนุสรณ์ตรงนี้เป็นการสัญลักษณ์ที่ถูกเรียกว่า ประตูสู่ตะวันตก แลนด์มาร์คแห่งนี้สร้างขึ้นเป็นลักษณะซุ้มประตูโค้ง วัสดุที่ใช้เป็น สแตนเลส คอนกรีตเสริมเหล็ก แล้วก็มีโครงสร้างเหล็กด้านในเพื่อความแข็งแรง จุดเด่นเป็นตอนกลางวันที่สะท้อนแสงแดดจนเห็นชัดแต่ไกล แต่ตอนกลางคืนสะท้อนแสงไฟก็สวยไปอีกแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังจุดสูงสุดเพื่อชมวิวแบบ 360 ได้อีกด้วย ปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ชื่อว่า mississippi Museum of art พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จะมีการรวบรวมผลงานของท้องถิ่นเอามาไว้เพื่อเผยแพร่ เหมาะกับคนชอบงานศิลปะ และศึกษาเรื่องราวในท้องถิ่นไปด้วยพร้อมกัน
Read More
‘Scott Joplin’ ประวัติ

‘Scott Joplin’ ประวัติ

‘Scott Joplin’ เขาเกิดในปี ค.ศ.1867 และเสียชีวิตในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1917 โดยเขาเป็นทั้งนักดนตรีและนักประพันธ์เพลงแร็กไทม์ที่มีชื่อเสียงในระดับสูง โดยพลังบทเพลงของเขาได้เป็นบรรทัดฐานที่สร้างมาตรฐานไว้ให้แก่ผู้คนรุ่นหลัง ประวัติของ ‘Scott Joplin’ อันน่าสนใจ ‘Scott Joplin’ ได้รับการขนามนามว่าราชาแห่งแร็กไทม์ ในช่วงเวลาสั้นๆ ในอาชีพของเขา เขาได้เขียนต้นฉบับนาม Ragtime 44 ชิ้น โดยหนึ่งในนั้น คือ บัลเล่ต์ Ragtime และ Opera โดยหนึ่งในผลงานชิ้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเขาคือ ‘Maple Leaf Rag’ ซึ่งกลายเป็นเพลงฮิตอันดับแรก และมีอิทธิพลมากสุดของ Ragtime จนกระทั่งได้รับการยอมรับว่าเป็น Rag Archetypal Rag หลังจากปี ค.ศ. 1871 ครอบครัว ‘Joplin’ ได้ย้ายไปอยู่ ณ เมือง Texarkana รัฐ Texas โดยแม่ของ Joplin ได้ทำความสะอาดบ้านเพื่อ Scott จะได้มีพื้นที่หัดเล่นดนตรี ในปี ค.ศ. 1882 แม่ของเขาได้ซื้อเปียโนให้ หลังจากเขาได้แสดงให้เห็นถึงทักษะอันโดดเด่นตั้งแต่อายุยังเยาว์วัย ‘Scott Joplin’ ก็ได้เรียนเปียโนแบบไม่ต้องจ่ายเงินกับอาจารย์ชาวเยอรมัน ผู้ให้ความรู้เรื่องรูปแบบของดนตรีคลาสสิกแก่ Joplin อย่างอัดแน่น โดยสิ่งนี้ได้สร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อเขาในภายภาคหน้า (more…)
Read More
National Blues Museum ประวัติ

National Blues Museum ประวัติ

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่น่าไปเยือนของโลก ตั้งอยู่ ณ เมือง St. Louis รัฐ Missouri สำหรับจุดประสงค์ในการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา ก็เพื่อเป็นการอุทิศให้แก่ดนตรี Blues ที่เป็นหนึ่งในแนวดนตรีซึ่งเป็นรากฐานประวัติศาสตร์สำคัญของดนตรีอเมริกันสมัยใหม่ ซึ่งเป็นศาสตร์สำคัญของทุกแขนง ณ ปัจจุบันนี้… National Blues Museum บอกเล่าตำนานรากฐานแห่ง ‘Blues’ สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีอาณาเขตกว้างกว่า 2,137 ตารางเมตร อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ดนตรีซึ่งมีความสำคัญระดับโลก การสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุนส่วนตัวของศิลปิน รวมทั้งนักแสดงชื่อดังมากมาย เช่น Shemekia CopelandBuddy Guy, Denise LaSalle, Derek Trucks, Jack White, Morgan Freeman เป็นต้น และความพิเศษอีกประการหนึ่งก็คือ การได้ ‘Robert Santelli’ ผู้เป็น Executive Director แห่งพิพิธภัณฑ์ Grammy Museum ใน Los Angeles มาเป็นที่ปรึกษาให้อีกด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าต้นกำเนิดของเพลง ‘Blues’ จริงๆ นั้นจะอยู่ในแอฟริกา หากแต่เหตุการณ์เมื่อทาสถูกต้อนเข้าสู่ประเทศอเมริกา ก็ส่งผลทำให้ Blues มีการพัฒนาจากเพลงสวดในโบสถ์ ไปสู่กระแสดนตรีหลักที่ผู้คนทั่วโลกต่างหลงใหล (more…)
Read More