The Gateway Arch ตั้งอยู่ในเมือง St. Louis รัฐ Missouri ที่ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ อนุสรณ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง Thomas Jefferson (ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนที่ 3) และ อนุสรณ์นี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ประตูสู่ตะวันตก” เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง St. Louis
The Gateway Arch ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ของแม่น้ำ Mississippi เป็นสิ่งก่อสร้างรูปโค้ง ที่มีความสูงถึง 630 ฟุต หรือ 192 เมตร ความกว้างของส่วนฐานมีความยาวเท่ากับส่วนสูง โครงสร้างเป็น ซุ้มโลหะขนาดใหญ่ โดยครึ่งล่างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนครึ่งบนเป็นโครงสร้างที่ทำจากเหล็ก หุ้มปิดภายนอกด้วยแผ่น Stainless ด้วยแผ่น Stainless นี่เองทำให้สะท้อนแสงเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ทำให้เป็นที่สะดุดตา และ มีความสวยงาม Gateway Arch คืออนุสาวรีย์ที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาที่สร้างโดยฝีมือมนุษย์ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกันเชื้อสายฟินดิช Eero Saarinen เมื่อปี ค.ศ.1965
The Gateway Arch ได้ถูกออกแบบให้มีสภาพที่ทนต่อแผ่นดินไหวและลมพายุที่มีความรุนแรง ทำให้รู้สึกปลอดภัยหายห่วง ว่าวันดีคืนดีมันจะไม่โดนลมพัดปลิว หรือ ถล่มลงมาง่ายๆ ซึ่งตัวอนุสรณ์สามารถแกว่งไปมาได้ 1 นิ้วต่ออัตราความเร็วของลม 20 mph แต่ความพิเศษจริงๆของ Gateway Arch ถูกออกแบบมาเพื่อที่ให้ ขยับไปมาได้ ถึง 18 นิ้ว ซึ่งก็ถือว่าขยับได้เยอะเลยทีเดียว ส่วนฐานเบื้องล่าง ถูกฝังลงในใต้ดิน ด้วยความลึกประมาณ 60 ฟุต มีความแข็งแรง แน่นหนา เมื่อมองขึ้นไปบนยอดของ Gateway Arch จากภายนอก ให้ลองมองดีๆจะเห็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆ ตรงกลาง หลายๆช่อง ซึ่งช่องนั้นคือหน้าต่างสำหรับชมวิว
ภายในของ Gateway Arch มีทั้งพิพิธภัณฑ์ , ร้านจำหน่ายของฝาก ,โรงภาพยนตร์เพื่อการศึกษา และ ร้านขายอาหารอยู่ภายใน แต่ที่เป็น ไฮไลท์ของสถานที่นี้จริงๆ คือ การที่นักท่องเที่ยว สามารถขึ้นไปชมวิวบนยอดสูงสุด ของ Gateway Arch ที่สามารถมองได้ถึง 360 องศา รอบตัวเมือง ขึ้นไปได้โดยนั่ง Tram Car ที่เป็นกระเช้าราง กึ่งๆ ลิฟต์ ตู้หนึ่งสามารถขึ้นครั้งล่ะได้ 5 คน มันจะค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปยังยอด โดยต้องเดินขึ้นบันไดอีกหกทอดเพื่อขึ้นสู่บริเวณชั้นชมวิว ระหว่างที่ Tram Car ค่อยๆเลื่อนตัวขึ้นไปนั้น อาจจะรู้สึกเสียวๆแปลกๆอยู่บ้าง แต่ถ้าถึงจุดหมายปลายทางข้างบน รับรองว่าจะลืมทุกอย่าง นอกจากวิวสวยๆของเมือง St. Louis ที่อยู่ตรงหน้า อาคารที่มีรูปทรงเก่าแก่ ที่ตั้งเด่น เมื่อมองลงไป คือ The Old Courthouse หรือ ที่ทำการศาลเดิม ปัจจุบันเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม และ ศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ เมื่อทอดสายตามองไปทั่วๆ จะมองเห็นความสวยงามของแม่น้ำ Mississippi ที่อยู่ทางฝั่งทางทิศตะวันออก แต่ถ้าหันไปทางทิศเหนือ จะเห็น สะพานเก่าแก่ Eads Bridge ที่มีอายุกว่า 130 ปี เลยทีเดียว ในวันที่ฟ้าเปิด คุณอาจมองเห็นได้ไกลถึง 48 กิโลเมตรจากจุดสูงสุดแห่งนี้
เมื่อชมวิวกันอย่างจุใจแล้ว กลับลงมาสู่เบื้องล่าง เหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลายที่อิ่มใจกับทัศนีย์ภาพอันสวยงาม ที่พึ่งพบเห็นมา ฉันเชื่อว่าในคืนนี้พวกเขาต้องหลับฝันดีกันถ้วนหน้าตลอดคืนแน่นอน